Life Goes On ของ BTS เปิดตัวอันดับที่ 1 ใน Billboard Hot 100 ศิลปินวงแรกในประวัติศาสตร์ 62 ปีของชาร์ตที่มีเนื้อร้องเป็นภาษาเกาหลี เพลงนี้เป็นเพลง Hot 100 อันดับ 1 ในครั้งที่ 3 ของ BTS นับเป็นช่วงเวลา 3 เดือนต่อจาก Dynamite และ Jawsh 685 และ Savage Love (Laxed – Siren Beat) ของ Jason Derulo ซึ่งนำโดย BTS รีมิกซ์
นอกจากนี้ Life Goes On ยังเป็นเพลง Hot 100 อันดับ 1 วงแรกในประวัติศาสตร์ 62 ปีของชาร์ตที่มีเนื้อร้องเป็นภาษาเกาหลี
Hot 100 ผสมผสานการสตรีมทุกประเภทในสหรัฐอเมริกา (เสียงอย่างเป็นทางการและวิดีโออย่างเป็นทางการ) การออกอากาศทางวิทยุและข้อมูลการขาย โดยชาร์ตทั้งหมดจะถูกอัปเดตบน Billboard.com ในวันนี้ (1 ธันวาคม) สำหรับข่าวสารเกี่ยวกับชาร์ตทั้งหมดคุณสามารถติดตาม @billboard และ @billboardcharts ได้ทั้งบน Twitter และ Instagram
อยากบอกอะไร ลุงพล ป้าแต๋น ?
“การให้ที่ดีที่สุดคือการให้อภัย ส่วนการมาร่วมงานกันหรือไม่นั้น ขอให้ระยะเวลาเป็นสิ่งเยียวยา มันอาจเกิดขึ้นได้ในการกลับมาร่วมงาน เป็นเรื่องปกติ สิ่งที่เกิดขึ้่นแค่ช่วงนึง อาจทำให้รักกันมากกว่าเก่าหรือไม่รักกันก็ได้ ต้องรอดูกันต่อไป แต่สำหรับพี่ก็เหมือนเดิม พี่สอนตลอดเวลา พี่ชอบคำนี้มาก อย่าทิ้งคนที่ร่วมสู้อยู่เคียงข้าง อย่าลืมคนที่ช่วยสร้างทางยิ่งใหญ่ อย่าละเลยคนที่เคยมีน้ำใจ อย่าลืมเป็นผู้ให้เมื่อได้ดี พี่สอนทุกคน เวลาเจอเขาก็สอนตลอด”
ทะเลาะกับลุงพล เรื่องจริงหรือปั่นกระแส เพราะลุงพลเงียบ ?
“โอ้ย ตายแล้ว ให้ไปสาบานวัดไหนดี ทุกวัดเลยมั้ย เรื่องจริงไม่ได้ปั่นกระแส ใครจะมายอมหน้าด้านหน้าทน ดิฉันทนไม่ได้หรอกค่ะ ยังมียางอาย แหกตาประชาชนมันบาป เรื่องจริงไม่ได้ปั่นเลยค่ะ”
ถ้า พี่อุ๊บ ผิดคำสาบานขอให้เสื่อมสมรรถภาพ ?
“ได้ค่ะ ชีวิตนี้ไม่คิดเรื่องเซ็กซ์แล้วค่ะ เอางานเอาเงินเป็นหลัก ทำงานเลี้ยงหมาแมวมีความสุขกว่า ยินดีไร้สมรรถภาพค่ะ”
วันที่ 30 พ.ย. ที่ผ่านมา นักร้องสาว ลิเดีย ศรัณย์รัชต์ ออกมา เตือน โพสต์คลิปจากกล้องหน้ารถคุณตาขณะเดินทางมากับคุณยาย ในคลิปบันทึกเหตุการณ์ขณะที่รถคันข้างหน้าได้ไหลเข้ามาชนกับรถของคุณตาขณะรอไฟแดง ทำให้คู่กรณีลงมาจากรถและเรียกร้องค่าเสียหาย บอกให้คุณตาและคุณยายรับผิดชอบเพราะรถได้รับความเสียหาย
แต่เมื่อคุณตาจะโทรเรียกประกันก็ไม่ให้เรียก จะให้ไป สน. ด้วยกันก็ไม่ไป เกิดการข่มขู่กันพักใหญ่จนทำให้คนขับรถเมล์ที่เห็นเหตุการณ์ ลงมาออกตัวเป็นพยานที่อยู่ในเหตุการณ์ แต่เมื่อทางฝั่งคุณตาบอกว่าจะเช็คกล้องที่รถ คู่กรณีก็รีบขึ้นรถหนีกลับไปเลย โดยสาว ลิเดีย ได้โพสต์รายละเอียดในเหตุการณ์ครั้งนี้ ว่า
“เตือนภัย ก็ไม่คิดว่าอากงกับยายจะเจอคนแบบนี้เอง คุณตาคุณยายจอดรถติดไฟแดงเฉยๆ แล้วอยู่ๆรถเขาก็ไหลมาชนเราเขาลงมาจากรถและบอกว่าเขาเสียหาย รถเขาเป็นรอยต้องการให้เรารับผิดชอบ ข่มขู่อากงกับยายพักใหญ่เลย พี่คนขับรถเมล์เห็นเหตุการณ์เลยจอดช่วยเป็นพยานให้ว่าเขามาชนเรา พออากงกับยายจะเรียกประกันก็ไม่ให้เรียก พอเราบอกให้ไปสนก็ไม่ไป พอเราบอกว่าจะเช็คกล้องที่รถ เขาก็รีบขึ้นรถไปเลย #แบบนี้ขอมอบมงให้เลยค่ะ #ดีนะที่มีกล้องติดรถ #ดีนะที่ไม่ให้เงินไป ขอบคุณพี่คนขับรถเมล์ที่จอดเป็นพยานให้คุณตาคุณยายนะคะ (ทุกคนควรมีกล้องติดรถนะคะ)”
ฐปณีย์ เผย ชีวิต นักข่าว เคยถูกขู่ฆ่าจากผู้มีอิทธิพล ลำบากจนต้องกินซากหมู
นักข่าวภาคสนามสายลุยอย่าง แยม ฐปณีย์ เอียดศรีไชย ออกมาเปิดเผยชีวิตการทำงานในวงการข่าวมามากว่า 20 ปี พร้อมเล่าประสบการณ์และเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เคยพบเจอ ทั้งเรื่องการที่ตนเคยถูกขู่ฆ่าจากผู้มีอิทธิพล ไปทำข่าวพายุไต้ฝุ่นที่ฟิลิปปินส์ 4 วัน ลำบากจนต้องกินซากหมู และการพิสูจน์เรื่องผีในโรงแรมที่เคยโดนสึนามิ เจอของดีจนต้องวิ่งกันกระเจิง ในรายการ คุยแซ่บShow
“มาจากการที่เราเป็นนักข่าวภาคสนาม คุณกิตติอยู่ในสตูดิโอรายงานเหตุการณ์ส่งมาหาเรา การที่เราจะบอกว่านี่เป็นรายการสด เป็นคำที่เรารับก่อนจะรายงานสด คุณกิตติส่งมาหาเรา มันต้องมีการขานรับกัน เราไม่คิดว่าจะเป็นวลีเด็ด แต่คำนี้ก็ติดหูมาเป็น 10 ปีแล้วเนาะ มันมาจากคนดูข่าวเราทุกคืน ติดหูติดตาคน”
เคยคิดตั้งแต่เด็กมั้ยว่าจะเป็นนักข่าว ?
“เคยคิดตอนเด็ก ๆ ว่าเราอยากจะเป็นนักเขียนมากกว่า แต่นักข่าวออกทีวีไม่เคยคิดเลยคะ เราเรียนจบจากที่สงขลา แต่ก็อยากเรียนวารสารฯ แต่สอบไม่ได้ จนต้องเรียนคณะอื่นแต่รู้สึกว่าเรียนแล้วไม่ใช่ เลยลองสมัครเรียนโทวารสาร ได้มารู้จักกับเพื่อน ๆ เพื่อนแนะนำให้ไปสมัครนักข่าว เราก็ไม่รู้ลองไปเรื่อยไปอบรมดีเจบ้าง ติดเพื่อนไม่ทำโฆษณาบ้าง แต่นักข่าวเราลองไปสมัครดู เขาถามเราแค่สามคำ เป็นนักข่าวทำงานตอนกลางคืนได้มั้ย ออกงานต่างจังหวัดได้มั้ย ทำงานแบบไม่หลับไม่นอนได้มั้ย เราตอบได้หมด เขาบอกงั้นมาพรุ่งนี้ทำงานเลย ตั้งแต่วันนั้น 20 ปีก็ไม่เคยได้หลับได้นอน ก่อนมาเป็นนักข่าวทำงานเป็นเลขาผู้บริหาร ใส่ประโปรง ได้เงินเยอะแต่เราก็ทิ้งไปทำนักข่าว เพราะว่าเราค้นหาตัวเองเจอแล้ว”
“เรายังต้องลงสนามไปทำข่าวทุกวัน เพราะว่ามันมีโอกาสมากกว่าคนอื่น เราได้เดินทางไปประเทศที่บางครั้งไม่คิดเลยว่าจะได้เดินทางไป เราไม่คิดว่าวันนึงจะได้ไปอยู่ในสถานการณ์ซีเรีย สถานการณ์แผ่นดินไหว มันได้เปลี่ยนสถานที่ไปเรื่อย ๆ เป็นประสบการณ์ใหม่ ได้เจอผู้นำระดับโลก เราไปทำงานแต่เราได้อยู่ในเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ บางครั้งอันตรายมากที่ขู่ฆ่าจากผู้มีอิทธิพล ที่ไปตีแผ่”
เกมส์ออนไลน์แนะนำ >>> ป๊อกเด้งออนไลน์