‘มาครง’ ชนะเลือกตั้งฝรั่งเศส ได้ดำรงตำแหน่งต่ออีกวาระ คนเลือกตั้งน้อยสุดในรอบ 50 ปี

‘มาครง’ ชนะเลือกตั้งฝรั่งเศส ได้ดำรงตำแหน่งต่ออีกวาระ คนเลือกตั้งน้อยสุดในรอบ 50 ปี

เอมานูว์แอล มาครง ชนะเลือกตั้งฝรั่งเศส ทำให้เขาได้ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีต่ออีกวาระ ขณะที่ประชาชนมีเพียงแค่ร้อยละ 72 ที่เดินทางเข้าคูหา น้อยสุดในรอบ 50 ปี เมื่อวันที่ 25 เมษายน สำนักข่าว BBC รายงานว่า นาย นาย เอมานูว์แอล มาครง ประธานาธิบดีฝรั่งเศสคนปัจจุบัน เอาชนะการเลือกตั้งชิงตำแหน่งประธานาธิบดี และทำให้เขาได้ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีฝรั่งเศสเป็นวาระที่สอง

โดยเขาเอาชนะ นางมารี เลอเพน 

คู่แข่งคนสำคัญด้วยคะแนน ร้อยละ 58 ต่อร้อยละ 41 ซึ่งถือเป็นจำนวนที่มากกว่าที่หลายคนคาดการณ์เอาไว้ หลังจากที่ก่อนหน้านี้โพลสำรวจ เชื่อว่านาย มาครง จะชนะ นาง เลอเพน แบบเฉือนๆเท่านั้น

นาย มาครง ได้กล่าวหลังชนะเลือกตั้งครั้งนี้ว่า เขาจะเป็นประธานาธิบดีของทุกคน พร้อมระบุว่า เขาและคนในรัฐบาลจะต้องหาคำตอบหลังจากที่ประชาชนที่เต็มไปด้วยความโกรธแค้นและความเห็นต่างลงคะแนนเสียงเลือกเขา

ซึ่งชัยชนะครั้งนี้ได้รับการแสดงความยินดีจากผู้นำหลายชาติ ไม่ว่าจะเป็น นาย บอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีของประเทศอังกฤษ รวมถึง นาย โวโลดิมีร์ เซเรนสกี ประธานาธิบดียูเครนที่ออกมาร่วมแสดงความยินดีกับ “มิตรแท้” เช่นเดียวกัน

อย่างไรก็ตามจำนวนประชาชนชาวฝรั่งเศสที่ออกมาลงเสียงในครั้งนี้มีเพียงแค่ร้อยละ 72 เท่านั้น ซึ่งถือเป็นจำนวนประชาชนที่มาลงเสียงต่ำที่สุดนับตั้งแต่ปี 2512 โดยสาเหตุที่ประชาชนเลือกจะไม่ไปลงเสียงนั้นเนื่องจากวันเลือกตั้งตรงกับวันหยุดยาวของฝรั่งเศส รวมถึงประชาชนจำนวนมากมองว่า ผู้สมัครทั้งสอง ไม่ได้เป็นตัวแทนของตน

เกิดเหตุเศร้าหลัง โรงกลั่นน้ำมันไนจีเรียระเบิด เป็นเหตุให้มีประชาชนเสียชีวิตแล้ว 109 ศพ ประธานาธิบดีลั่นต้องนำผู้อยู่เบื้องหลังมารับโทษ เมื่อวันที่ 24 เมษายน สำนักข่าว BBC รายงานว่า เกิดเหตุโรงกลั่นน้ำมันเถื่อนในประเทศไนจีเรียระเบิด ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 109 ศพ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ระบุว่าสภาพศพของเหยื่อส่วนใหญ่นั้นถูกเผาไหม้เกรียมจนไม่สามารถยืนยันตัวตนได้

โดยเจ้าหน้าที่เชื่อว่าขณะเกิดเหตุนั้น มีพนักงานทำงานอยู่หลายคน และทางเจ้าหน้าที่ยังไม่ทราบถึงสาเหตุของเหตุโศกนาฎกรรมครั้งนี้ อย่างไรก็ตามเหตุการณ์ทำนองนี้เกิดขึ้นบ่อยครั้ง เนื่องจากโรงงานกลั่นน้ำมันเถื่อนมักจะไม่ผ่านมาตรด้านความปลอดภัย ซึ่งทางเจ้าหน้าที่กำลังเร่งตามหาเจ้าของโรงน้ำมันดังกล่าว

ด้าน มูฮัมมาดู บูฮารี ประธานาธิบดีไนจีเรียได้ออกมาแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมระบุว่าเหตุระเบิดครั้งนี้เป็นหายนะและภัยพิบัติของชาติ พร้อมให้คำมั่นสัญญาว่าทางเจ้าหน้าที่จะนำตัวผู้อยู่เบื้องหลังมาลงโทษ

ในประเทศไนจีเรียนั้นมีผู้ลักลอบทำโรงกลั่นน้ำมันเป็นจำนวนมาก แม้ว่าทางการจะมีความพยายามหยุดยั้งขบวนการก็ตาม ซึ่งนอกจากในด้านความปลอดภัยแล้ว ประชาชนจำนวนมากยังรู้สึกกังวลถึงผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมที่ตามมาจากการลักลอบขุดน้ำมันอีกด้วย

สยอง! หนุ่มเลือดโซกเป้า พบ ‘จู๋หัก’ ขณะกำลังมีเซ็กส์กับภรรยา

กลายเป็นเหตุสยองขึ้น เมื่อสามี จู๋หัก ขณะกำลังร่วมรักกับภรรยา วิ่งโร่หาแพทย์ขณะที่เป้าโชกเลือด เจ้าตัวเผยทำกับภรรยาทุกวัน เมื่อวันที่ 20 เมษายน เว็ปไซต์ ETToday ได้รายงาน เหตุสุดแปลกที่เกิดขึ้นภายในรายการโทรทัศน์ในไต้หวัน โดย ชิว หงเจี๋ย แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านระบบทางเดินปัสสาวะ ที่โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยเอเชีย เล่าว่าครั้งหนึ่งในช่วงที่เขาประจำกะอยู่ในช่วงกลางดึก

อยู่ดีๆก็มีคู่สามีภรรยาวิ่งมาขอความช่วยเหลือ ซึ่งในมือของฝ่ายชายถือผ้าก๊อซสำหรับซับเลือด พร้อมกับกุมเป้ากางเกงที่มีเลือดซึมออกมา ซึ่งแพทย์คนดังกล่าวได้นำผู้ป่วยคนดังกล่าวขึ้นเตียง และพบว่าสภาพของอวัยวะเพศของคนไข้นั้น มีบาดแผลเป็นรอยแดงและบวม รวมถึง มีลักษณะเป็นเส้นเอ็นหรือเนื้อเยื่อบาง ๆ เชื่อมระหว่างปลายองคชาตกับหนังหุ้มปลาย เกิดการฉีกขาด

ซึ่งทางผู้ป่วยที่เจ้าโลกหักก็ได้ออกมาเปิดใจกับแพทย์ว่า เขาและภรรยาค่อนข้างชื่นชอบเรื่องเซ็กส์ และทำเรื่องดังกล่าวทุกวัน ซึ่งในระหว่างที่กำลังร่วมรักกันอย่างเผ็ดร้อน ทั้งสองก็ได้กลิ่นเลือด ก่อนจะก้มลงไปดูและพบว่าเกิดแผล จนทำให้เลือดออก จนนำไปสู่เหตุจู๋หัก

ชิว หงเจี๋ย ผู้เป็นแพทย์ยังได้ระบุอีกด้วยว่า องคชาตส่วนใหญ่ของคนไข้เกิดอักเสบอย่างรุนแรง แต่เขายังคงสู้มีเพศสัมพันธ์โดยไม่พักผ่อน จนเกิดเรื่องดังกล่าว ในขณะที่เจ้าตัวพยายามจะห้ามเลือดด้วยตัวเอง โดยการใช้กระดาษชำระและผ้าก๊อซ แต่ทันทีที่เขาปล่อยมันออก เลือดก็ไหลออกมาอย่างควบคุมไม่ได้

ซึ่งเขายังได้อธิบายถึงเบื้องหลังของเหตุ องคชาตหัก อีกด้วยว่า การช่วยตัวเอง หรือพฤติกรรมทางเพศบางอย่างของผู้ชาย อาจทำให้องคชาตเกิดแผลถลอก เลือดออก หรือแม้กระทั่งกระดูกหัก รวมไปถึงอาการปวดหลัง และมีเลือดออกมากเช่นนี้ ในบางกรณีจำเป็นต้องเข้ารับการผ่าตัดเพื่อหยุดเลือด และต้องงดกิจกรรมทางเพศไปช่วงระยะหนึ่งหลังผ่าตัด แต่สำหรับเคสนี้ โชคยังดีที่สามารถหยุดเลือดด้วยเจลห้ามเลือด

สิ่งที่ต้องจับตาดู คือ ในวันพรุ่งนี้ ผู้เสียหายจะเรียกร้องอย่างไร และจำเลยแต่ละคนจะมีการเสนอตัวเลขการชดใช้บรรเทาความเสียหายหรือไม่ซึ่งคงแตกต่างกันไป แต่ในส่วนของ แซน เนื่องจากจำเลยยังให้การปฏิเสธ จึงไม่มีการเสนอข้อบรรเทาความเสียหาย

แนะนำ : ดูดวงไพ่ยิปซี | รีวิวที่พัก | รีวิวคาเฟ่ | วิธีลดน้ำหนัก | รีวิวอนิเมะ ญี่ปุ่น