Ducati ตระกูล StreetFighter เปิดตัวครั้งแรกในปี 2009 สปอร์ตเนกเก็ตที่มีดีไซน์โดดเด่นไม่เหมือนใคร. Ducati StreetFighter มีจุดเด่นคือการเอาใจคนรักในท่านั่งและการขับขี่แบบรถมอเตอร์ไซค์ทรงสปอร์ต แต่ไม่ชอบชุดแฟร์ริ่ที่ทำให้ดูเทอะทะ แต่ยังมีขุมพลังที่เทียบเท่ารถในกลุ่มรถสปอร์ตหรือซุปเปอร์ไบค์อยู่ ทำให้ StreetFighter เป็นเหมือนลูกผสมเลยก็ว่าได้. นับตั้งแต่ปี 2009 Ducati StreetFighter มีทั้งหมด 3 รุ่นคือ StreetFighter 1099, StreetFighter S 1099 และ StreetFighter 848 ถึงตอนนี้ Streetfighter เหล่านี้จะเรียกได้ว่าเป็นรถในตำนานเลยก็ว่าได้.
2019 Ducati จับตำนานรถตัวเก๋ามาปัดฝุ่นใหม่พร้อมดีไซน์และเทคโนโลยีที่เป็นที่สุดในปัจจุบัน
ด้วยการเปิดตัว Ducati StreetFighter V4 ซึ่งแน่นอน ครั้งนี้ก็ยังเป็นการยึดคอนเซ็ปต์เดิมที่เป็นรถสปอร์ตถอดแฟร์ริ่งเช่นเคย. ครั้งนี้เป็นการหยิบเอาเครื่องยนต์ตัวใหม่ล่าสุดอย่าง เครื่อง V4 ที่อยู่ใน Ducati Panigale V4 ที่เปิดตัวไปเมื่อปลายปี 2017 ที่ผ่านมา.
Ducati StreetFighter V4 มาพร้อมเครื่องยนต์ 1103cc Desmosedici Stradale ที่ได้ต้นแบบมาจากเครื่องยนต์ V4 ที่ใช้ในการแข่งขัน MotoGP วางแนว 90 องศา. ให้กำลังสูงสุดที่ 208 แรงม้าที่ 12,750 รอบต่อนาที และแรงบิดสูงสุดที่ 123 นิวตันเมตร ที่ 11,500 รอบต่อนาที. พร้อมระบบเกียร์ 6 สปีด ระบายความร้อนด้วยของเหลว.
Ducati StreetFighter V4 มีให้เลือกสองรุ่นคือ V4 และ V4S ซึ่งในรุ่น V4S จะได้ในเรื่องของระบบกันสะเทือนโช้คหน้าที่เป็น Ohlins ขนาด 43 มิลลิเมตร. ระบบกันสะเทือนหลังก็เป็น Ohlins เช่นกัน.ชณะที่ในรุ่น V4 ธรรมดาจะได้โช้คหน้าเป็นของ Showa ขนาด 43 มิลลิเมตร และหลังจาก จาก Sachs.
ในส่วนของล้อ V4 รุ่นธรรมดาได้ล้อหน้า ขอบ 17 นิ้วมาพร้อมยาง Pirelli Diablo Rosso Corsa 2 120/70 ZR17 ล้อหลัง ขอบ 17 นิ้วพร้อมยาง Pirelli Diablo Rosso Corsa 2 200/60 ZR17. ขณะที่ในรุ่น V4S ได้ล้อทั้งหน้าและหลังจากแบรนด์ดัง Marchesini พร้อมยาง Pirelli Diablo Rosso Corsa 2 120/70 ZR17 ที่ล้อหน้าและหลังเป็น Pirelli Diablo Rosso Corsa 2 200/60 ZR17.
Ducati StreetFighter V4 และ V4S มาพร้อมระบบเบรกเป็น Brembo M4.30 Monobloc 4 ลูกสูบ, จานดิสค์หน้าคู่ ขนาด 330 มิลลิเมตร และดิสค์หลังเดี่ยว ขนาด 245 มิลลิเมตร พร้อมเทคโนโลยีระบบเบรก ABS Cornering EVO. นอกจากนี้ยังมาพร้อมเทคโนโลยีเพื่อความปลอดภัยอีกมากมายไม่ว่าจะเป็น Ducati Traction Control ความคุมการปมุนฟรีของล้อ, Slide Control, Wheelie Control ป้องกันการยกล้อแบบไม่ได้ตั้งใจ, Power Launch ช่วยการออกตัวแบบระแดร็ก, Quick Shift up/down, Engine Brake Control และ Electronic Suspension ควบคุมค่าแข่ง/อ่อนของระบบกันสะเทือน.
มาพร้อมจอแสดงผลสี TFT ขนาด 5 นิ้ว
พร้อมโหมดควบคุมการขับขี่ 3 โหมดคือ RACE ให้กำลังเครื่องยนต์มาเต็ม 208 แรงม้า การตอบสนองของคันเร่งไฟฟ้ามาเต็ม พร้อม ABS ที่ระบดับ 2 และระบบอิเล็กโทรนิคต่างๆอยู่ในระดับต่ำ พร้อมเปิดฟังชั่น slide by brake ให้คุณสามารถดริฟท์ขณะเข้าโค้ง เพื่อเพิ่มความสนุกในการขับขี่. โหมด SPORTให้กำลังมาเต็มที่ 208 แรงม้า การตอบสนองของคันเร่งไฟฟ้าแบบเต็มอัตรา พร้อมระบบอิเล็กทรอนิกส์เพื่อความปลอดภัยตั้งค่าไว้สูงสุด พร้อมระบบตรวจจับล้อหลังยกขณะเบรก และ ABS Cornering ให้คุณกดเบรกได้อย่างมั่นใจในการเข้าโค้ง. โหมด STREET ลดทอนกำลังลงมาอยู่ที่ 155 แรงม้า พร้อมระบบที่เซ็ตมาให้เหมาะสำหรับการใช้งานในเมืองและพื้นถนนที่เปียก.
ความสูงของเบาะอยู่ที่ 845 มิลลิเมตร น้ำหนักตัวรถไม่รวมของเหลว ในรุ่นธรรมดาอยู่ที่ 180 กิโลกรัม และในรุ่น S อยู่ที่ 178 กิโลกรัม พร้อมปีกสำหรับรับลมที่ออกแบบตามปลักอากาศพลศาสตร์, ความจุถังน้ำมันอยู่ที่ 16 ลิตร มีให้เลือกแค่สี แดงเท่านั้นในตอนนี้.
โดยจุดประสงค์ของร่างกฏหมายนี้ เพื่อช่วยให้เหล่านักพัฒนาซอฟท์แวร์รัสเซียสามารถแข่งขันกับบริษัทต่างชาติที่มีบทบาดสำคัญอยู่ในรัสเซียอย่าง Apple และ Samsung ได้. นอกจากนี้ยังช่วยอำนวยความสะดวกให้กับผู้ใช้โดยเฉพาะในกลุ่มผู้สูงอายุที่ยังไม่มีความเข้าใจในเทคดนโลยีมากนัก.
แต่ถึงอย่างนั้น ร่างกฏหมายดังกล่าวก็ยังไม่วายถูกวิจารณ์จากร้านค้าปลีกต่างๆ ว่าทำอะไรไม่เคยปรึกษากันเลย หรือบางก็ถึงกับกลัวว่ารัฐบาลจะออกกฏบีบให้ Apple ออกไปจากรัสเซียก็มี.
นี้แหล่งข่าวจาก Apple ยังบอกอีกว่า “การเพิ่ม Applications จากที่อื่นเข้าสู่ระบบจัดการภายในหรือ ecosystem ของ Apple นั่นเท่ากันการ jailbreak เครื่อง. ซึ่งอาจเป็นภัยต่อความปลอดภัยของเครื่องได้ และบริษัทจะไม่ทนต่อความเสี่ยงดังกล่าวแน่นอน”
ที่เหนือไปกว่านั้นคือความกังวลว่ารัฐบาลรัสเซียอาจจะใช้แอ้พในการสอดส่องความเป็นส่วนตัวของประชาชนผลเรือนอีกด้วย. ก่อนหน้านี้รัสเซียเพิ่งจะมีการผ่านร่างกฏหมาย “sovereign internet law” ที่ให้อำนาจรัฐบาลในการปิดกั้นการเข้าถึงเว็ปไซต์ต่างๆ ได้ในทุกสถานการณ์ที่มีการเล็งเห็นว่าเป็นเรื่องที่มีความจำเป็นเร่งด่วน.
ด้าน Human Rights Watch ให้ความเห็นต่อร่างกฏหมายที่ปิดกั้นการเข้าถึงอินเตอร์เน็ตแบบนี้ ว่า “มันคือข่าวร้ายของรัสเซียและจะเป็นแบบอย่างที่ไม่ดีต่อประเทศอื่นๆอีกด้วย”
แนะนำ : ดูดวงไพ่ยิปซี | รีวิวที่พัก | รีวิวคาเฟ่ | วิธีลดน้ำหนัก | รีวิวอนิเมะ ญี่ปุ่น